เทรนด์ทรงผมชายที่ต้องรู้ในปี 2024

เทรนด์ทรงผมชายในปี 2024 มุ่งเน้นไปที่ความหลากหลายและการผสมผสานสไตล์ดั้งเดิมเข้ากับความทันสมัย โดยมีแนวโน้มที่โดดเด่นที่ควรรู้ดังนี้:

1. Buzz Cut แบบมี Texture

• ลักษณะ: Buzz Cut ยังคงเป็นที่นิยม แต่ในปี 2024 เน้นที่การเพิ่ม texture หรือการทำให้ผมดูมีมิติผ่านการตัดแต่งให้เป็นชั้นๆ หรือใช้ผลิตภัณฑ์เสริมให้ผมดูหนาและมีวอลลุ่ม

• วิธีการตัด: ใช้ปัตตาเลี่ยนตัดสั้นทั้งหัว แต่เพิ่มความน่าสนใจด้วยการตัดให้มีลวดลายเบา ๆ หรือเพิ่มการแต่งผมด้วยการใช้เจลหรือแว็กซ์เพื่อเพิ่ม texture

2. ทรง Modern Mullet

• ลักษณะ: ทรง Mullet กำลังกลับมาอีกครั้ง แต่ในเวอร์ชันที่มีความสั้นด้านหน้าและยาวด้านหลัง โดยเน้นการจัดแต่งให้ดูเท่และมีความเป็นเอกลักษณ์

• วิธีการตัด: ตัดผมด้านข้างให้สั้นเกือบติดหนังศีรษะ ด้านบนและด้านหลังปล่อยยาวและใช้ผลิตภัณฑ์แต่งผมให้เป็นลอนหรือสร้าง texture ที่ดูมีชีวิตชีวา

3. ทรง Crop แบบ French Crop

• ลักษณะ: ทรง Crop ยังคงได้รับความนิยม โดยในปี 2024 การตัดผมแบบ French Crop ที่เน้นความสั้นด้านข้างและด้านหลัง และการปล่อยผมด้านบนสั้นๆ ให้ดูเป็นธรรมชาติ เป็นสิ่งที่หลายคนเลือก

• วิธีการตัด: ใช้ปัตตาเลี่ยนตัดสั้นด้านข้างและด้านหลัง ส่วนด้านบนให้ตัดสั้นแล้วใช้มือจัดให้ผมชี้ขึ้นเบา ๆ เพิ่มวอลลุ่ม

4. ทรง Side Part แบบคลาสสิก

• ลักษณะ: ทรง Side Part แบบคลาสสิกที่มีการจัดผมให้แยกเป็นสองข้างยังคงเป็นที่นิยม แต่ในปีนี้จะเน้นการเพิ่มความเงางามและความเรียบร้อย

• วิธีการตัด: ตัดผมให้มีความยาวปานกลาง ใช้แว็กซ์หรือเจลที่มีความเงาในการจัดแต่งผมให้เข้าที่และเพิ่มเส้นผมด้านข้างที่ตัดสั้น

5. ทรง Pompadour แบบสูงและมี Volume

• ลักษณะ: ทรง Pompadour ที่เน้นความสูงและมี volume ที่มากขึ้นยังคงเป็นที่นิยม โดยผสมผสานกับการตัดผมด้านข้างที่สั้นและเรียบเนียน

• วิธีการตัด: ตัดผมด้านข้างให้สั้นด้วยปัตตาเลี่ยน ส่วนด้านบนให้ไว้ยาวและจัดแต่งให้เป็นชั้นโดยใช้แปรงและไดร์เป่าผมเพื่อเพิ่มความสูงและความหนา

6. ทรง Slick Back แบบ Wet Look

• ลักษณะ: ทรงผมที่เสยไปด้านหลังพร้อมกับใช้ผลิตภัณฑ์แต่งผมให้ดูเงาและมีลุคเปียก เป็นที่นิยมในปีนี้ โดยเน้นการตัดผมให้มีความยาวพอเหมาะและเรียบเนียน

• วิธีการตัด: ตัดผมด้านข้างและด้านหลังให้เรียบเนียน ส่วนด้านบนให้ไว้ยาวและใช้ผลิตภัณฑ์แต่งผมเพื่อเสยไปด้านหลังให้ดูเป็นธรรมชาติ

7. ทรง Undercut แบบ Fade

• ลักษณะ: ทรง Undercut ที่เน้นการตัดผมด้านข้างให้สั้นจนถึงหนังศีรษะ (Fade) และการปล่อยผมด้านบนให้ยาวกว่าเล็กน้อย เพิ่มความมีมิติและความเรียบเท่

• วิธีการตัด: ใช้ปัตตาเลี่ยนตัดผมด้านข้างแบบเฟด (Fade) ให้สั้นเรียบไปกับหนังศีรษะ ส่วนด้านบนให้ไว้ยาวและจัดแต่งด้วยผลิตภัณฑ์เพิ่มวอลลุ่ม

8. ทรง Curly Top

• ลักษณะ: สำหรับผู้ที่มีผมหยิก ทรง Curly Top ที่เน้นการปล่อยผมหยิกด้านบนและตัดผมด้านข้างให้สั้นเป็นที่นิยม ช่วยให้ลุคดูมีความสดใสและเป็นธรรมชาติ

• วิธีการตัด: ตัดผมด้านข้างสั้นและเรียบ ส่วนด้านบนปล่อยให้ยาวและใช้ผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มความชุ่มชื้นเพื่อให้ลอนผมดูชัดเจนและเป็นธรรมชาติ

การเลือกทรงผมที่ทันสมัยและเหมาะสมกับลักษณะผมของแต่ละคนจะช่วยเพิ่มความมั่นใจและสร้างสไตล์ที่โดดเด่นในปี 2024