
หัวกรวย
Dec 7, 2024
เทคนิคการตัดผมใหม่ๆ ที่ได้รับความนิยมจากช่างตัดผมทั่วโลก
การตัดผมสมัยใหม่มีเทคนิคใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นตลอดเวลา ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากแฟชั่น ศิลปะ และความต้องการของลูกค้า นี่คือเทคนิคการตัดผมที่กำลังเป็นที่นิยมในปีล่าสุด:
1. เทคนิคการใช้กรรไกรตัดแบบ Point Cutting
รายละเอียด: การตัดด้วยปลายกรรไกร (point cutting) เพื่อสร้างเลเยอร์ที่ดูเป็นธรรมชาติ เทคนิคนี้ทำให้ผมดูมีความเคลื่อนไหว ไม่แข็งทื่อ และเพิ่มความพลิ้วไหวของทรงผม
การใช้งาน: เหมาะสำหรับการสร้างเท็กซ์เจอร์ให้กับทรงผมยาว-ปานกลาง หรือทรงผมที่มีเลเยอร์

2. เทคนิคการใช้ Clipper Over Comb
รายละเอียด: เป็นการใช้ปัตตาเลี่ยนเล็มปลายผมให้เรียบเนียนโดยอิงจากความยาวที่ถูกควบคุมโดยหวี เทคนิคนี้นิยมในการสร้างทรงผมแบบ fade ที่ผสมผสานการเล็มปลายผมอย่างละเอียด
การใช้งาน: เหมาะสำหรับการตัดทรงผมแบบ Fade หรือ Undercut
3. เทคนิค Freehand Clipper Cutting
รายละเอียด: การใช้ปัตตาเลี่ยนในการตัดโดยไม่ต้องใช้หวีรอง เทคนิคนี้ต้องอาศัยความแม่นยำและความชำนาญในการคุมความยาว ทำให้ได้ทรงผมที่เรียบเนียนเป็นธรรมชาติ
การใช้งาน: เหมาะสำหรับการตัดทรงผมสั้นที่ต้องการความเนียนและเทคนิคในการไล่ระดับ
4. การสร้างทรงผม Textured Crop
รายละเอียด: เป็นการตัดผมที่ใช้เทคนิคการสร้างเท็กซ์เจอร์แบบละเอียด เพื่อให้ผมดูมีวอลลุ่มและดูซับซ้อน ซึ่งเป็นสไตล์ที่กำลังได้รับความนิยมในยุโรปและอเมริกา
การใช้งาน: เหมาะสำหรับทรงผมที่ต้องการดูผ่อนคลายและไม่ต้องจัดทรงมาก
5. เทคนิค Skin Fade
รายละเอียด: การทำ Skin Fade คือการไล่ระดับความยาวจากศูนย์ไปจนถึงด้านบนอย่างเรียบเนียน ทำให้ทรงผมดูสะอาดและทันสมัย
การใช้งาน: เหมาะสำหรับทรงผมที่มีการเล่นระดับจากศูนย์ไปถึงทรงสั้น-กลาง
6. เทคนิคการใช้กรรไกรตัดแบบ Scissor Over Comb
รายละเอียด: ใช้กรรไกรในการเล็มผมโดยการใช้หวีเป็นตัวควบคุมความยาว เทคนิคนี้ช่วยให้การตัดผมมีความแม่นยำและเหมาะกับการสร้างเลเยอร์ที่ละเอียด
การใช้งาน: เหมาะกับการตัดทรงผมคลาสสิกที่ต้องการความเนี๊ยบ เช่น Pompadour หรือทรงผมที่ต้องการเลเยอร์
7. การใช้ Razor หรือการโกนด้วยมีดโกน
รายละเอียด: ใช้มีดโกนในการสร้างเลเยอร์และเท็กซ์เจอร์ ทำให้ทรงผมดูบางเบาและมีวอลลุ่มโดยไม่ทำให้ผมดูแข็ง
การใช้งาน: เหมาะสำหรับการสร้างลุคที่มีเท็กซ์เจอร์บางๆ หรือสำหรับผมที่ต้องการให้ดูมีวอลลุ่มเป็นพิเศษ
8. เทคนิคการใช้ Heat Tools ในการจัดทรง
รายละเอียด: การใช้เครื่องมือลมร้อน เช่น ไดร์เป่าผมหรือเตารีดหนีบผม เพื่อช่วยในการจัดแต่งทรงผมหลังการตัด เทคนิคนี้ช่วยให้ทรงผมคงรูปได้นานขึ้นและดูเนี๊ยบมากขึ้น
การใช้งาน: เหมาะสำหรับการสร้างทรงผมที่ต้องการความเรียบหรูหรือการสร้างลุคที่ดูเป็นมืออาชีพ
9. การออกแบบเส้นตัด (Hair Design or Hair Tattoo)
รายละเอียด: การใช้ปัตตาเลี่ยนหรือมีดโกนในการออกแบบลวดลายบนผม เช่น รูปแบบของเส้นหรือสัญลักษณ์ต่างๆ ซึ่งเป็นเทคนิคที่ได้รับความนิยมในสไตล์ทรงผมสตรีท
การใช้งาน: เหมาะกับลูกค้าที่ต้องการทรงผมที่มีความสร้างสรรค์และโดดเด่น เช่น ทรง Fade ที่มีการออกแบบเส้น
10. เทคนิคการ Fade แบบ High and Tight
รายละเอียด: การไล่ระดับจากความยาวศูนย์อย่างรวดเร็วไปจนถึงบริเวณเหนือหู และผมด้านบนที่ถูกตัดสั้นให้ดูเรียบง่ายและสะอาด
การใช้งาน: เป็นทรงที่ได้รับความนิยมในหมู่คนที่ต้องการทรงผมที่เรียบง่ายและดูแลรักษาง่าย
เทคนิคเหล่านี้สามารถปรับใช้เพื่อให้เข้ากับความต้องการของลูกค้าและแนวโน้มของแฟชั่นทั่วโลก โดยช่างตัดผมสามารถฝึกฝนและปรับตัวกับเทคนิคใหม่ๆ เพื่อให้การบริการมีความหลากหลายและทันสมัย